หากใครตกหลุมรักเสน่ห์ความงามของขุนเขา ธรรมชาติ สายหมอก และดอกไม้
เห็นทีจะต้องไม่พลาดไปเยือนจังหวัดพิษณุโลก ที่ปีนี้ได้จับคู่เชื่อมโยงกับจังหวัดเพชรบูรณ์ “เพชรบูรณ์ Plus พิษณุโลก” (เพชรบูรณ์พลัสพิษณุโลก) ซึ่งความสวยงามของธรรมชาติในทั้งสองจังหวัดนั้นขึ้นชื่อว่า เป็นดินแดนที่โรแมนติกชวนหลงใหล สามารถเดินทางมาพักผ่อนได้ตลอดทั้งปี
และหากใครมาเยือนเพชรบูรณ์แล้ว ก็ต้องไม่พลาดมาเยือนพิษณุโลก เมืองต้องห้ามพลาด Plus ด้วยเช่นกัน
นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบแล้ว พิษณุโลก ยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งเรื่องการเดินทาง ร้านอาหาร ที่พัก ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนพิษณุโลกประทับใจ และกลับมาเยือนอีกหลายครั้ง
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและประวัติศาสตร์ในพิษณุโลก ในครั้งนี้เรามีที่เที่ยวสวยๆ มาแนะนำให้ทุกคนตามไปเช็คอินกันจุใจ
#———————————-#
1.อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ
ที่ตั้ง: เขตพื้นที่อำเภอชาติตระการ และอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามของจังหวัดพิษณุโลก
อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ มีเนื้อที่ประมาณ 339,375 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอชาติตระการและอำเภอนครไทย โดยมีน้ำตกที่สวยงามของจังหวัดพิษณุโลกที่ขอบอกเลยว่าห้ามพลาด ก็คือ น้ำตกชาติตระการ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “น้ำตกปากรอง”
น้ำตกชาติตระการมีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความงดงามแตกต่างกันออกไป และตั้งชื่อตามธิดาทั้ง 7 ของท้าวสามลในวรรณคดีไทยเรื่องสังข์ทอง โดยเฉพาะชั้นที่ 3 และ 4 น้ำตกจากหน้าผาสูงประมาณ 10 เมตรเป็นฝอยกระจายไปทั่ว ชั้นที่ 1 เป็นแอ่งใหญ่ที่สุดและเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมลงเล่นน้ำ
ภายในอุทยานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ อีกด้วย เช่น ผาแดง น้ำตกนาจาน ผากระดาน ถ้ำน้ำมุด และถ้ำกา นอกจากนั้นอุทยานฯ ยังมีที่พักสำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้างแรมอีกด้วย
#———————————-#
2.โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า
ที่ตั้ง : เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก
ใครชอบความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขา และดอกไม้ มาที่นี่ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นสถานที่ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านให้สามารถอาศัยอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน
และเป็นพื้นที่สาธิตการทำเกษตรกรรมให้กับผู้คนในพื้นที่ให้หันมาปลูกพืชเศรษฐกิจแทนการปลูกฝิ่น ภายในโครงการหลวงมีสวนสตรอเบอร์รีที่ปลูกแบบปลอดสารพิษ ให้ผลสตรอเบอร์รีลูกใหญ่น่ารับประทานและมีรสชาติหวานกรอบ
อีกทั้งยังมีทุ่งดอกกระดาษสีสันสวยงามนับสิบไร่ ทั้ง แดง ส้ม เหลือง ชมพู ขาว โดยจะบานสะพรั่งในเวลากลางวัน และดอกจะหุบในเวลากลางคืนหรือเมื่อสัมผัสกับน้ำค้าง
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชมทุ่งดอกกระดาษ คือช่วงที่มีอากาศหนาวจัดในเดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
นอกจากนั้นภายในโครงการหลวงยังมีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามของขุนเขาที่มีชื่ออันแสนไพเราะว่า ผาไททานิค ผาพบรัก ผาบอกรัก ผาคู่รัก ผารักยืนยง และ ผาสลัดรัก ซึ่งเป็นแนวหน้าผาหินตั้งตระหง่านไล่เรียงกันไป ให้เราได้ไปยืนชมวิวทิวทัศน์สวยๆ และนับอีกหนึ่งจุดดึงดูดต้องห้ามพลาดสำหรับผู้มาเที่ยวพิษณุโลก
#———————————-#
3.พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี
ที่ตั้ง : ตำบลในเมืองอำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
เปิดปิดเวลา: 08.30-16.30 น. ทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์
ราคาค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท
จัดเป็นแหล่งความรู้ที่สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ ความเชื่อ และภูมิปัญญาพื้นบ้านของผู้คนเมืองพิษณุโลกในอดีตได้เป็นอย่างดี และเคยคว้ารางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ประเภทหน่วยงานส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว เมื่อปีพ.ศ.2541 มาแล้วด้วย
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี ถือกำเนิดขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงและชีวิตจิตใจของ จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ โดยเริ่มต้นจากความสนใจส่วนตัวของท่านในการเก็บรวบรวมเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้านทุกประเภท ทั้งเครื่องดนตรี เครื่องมือช่าง เครื่องมือดักสัตว์ เครื่องมือทำงาน เครื่องจักรสาน และอาวุธ รวมกันนับหมื่นชิ้น ดำเนินการจัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์โดยใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวของจ่าทวีเองทั้งหมด
#———————————-#
4.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
ที่ตั้ง : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
เปิดปิดเวลา: 06.30-18.00 น.
ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดใหญ่” เป็นอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลก ที่มีประชาชนทั่วทุกสารทิศเดินทางมาสักการะขอพรกันเป็นจำนวนมากในทุกๆ วัน
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประติมากรรมที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง ถือได้ว่าเป็นเป็นมกดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลก
ภายในวัดเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช หรือที่ชาวพิษณุโลกเรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หล่อขึ้นด้วยทองสัมฤทธิ์ในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในโลก เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพิษณุโลก
ในทุกๆ ปีจะมีงานนมัสการพรพุทธชินราช ซึ่งจะจัดขึ้นในวันขึ้น 6 ค่ำไปจนถึงวันขึ้น 12 ค่ำเดือน 3 เรียกว่า “งานวัดใหญ่” หากมีโอกาสต้องไม่พลาดมาเที่ยวกันสักครั้ง
#———————————-#
5.วัดจุฬามณี
ที่ตั้ง : อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
โบราณสถานเก่าแก่ที่มีมาก่อนสมัยสุโขทัย เคยเป็นที่ตั้งของเมืองสองแควเก่า ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่า สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถทรงสร้างพระวิหารและเสด็จออกผนวชที่วัดนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2007 เป็นเวลาถึง 8 เดือน 15 วัน โดยมีข้าราชบริพารออกบวชตามเสด็จถึง 2,348 รูป
ภายในวัดมีโบราณสถานที่สำคัญคือ ปรางค์แบบขอมขนาดย่อมที่ก่อด้วยศิลาแลงและมีลวดลายปูนปั้นประดับอย่างสวยงามโดยรอบ ใกล้เคียงกันมีมณฑปพระพุทธบาทจำลองซึ่งสมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้น
แผ่นจารึกหน้ามณฑปมีใจความสรุปได้ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2221 สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงมีพระบรมราชโองการให้ใช้ผ้าทาบรอยพระพุทธบาท สลักลงบนแผ่นหิน และพระราชทานไว้ให้เป็นที่กราบไหว้ของประชาชน
ปัจจุบันวัดจุฬามณีมีพิธีการบวชต้นไม้ที่ไม่เหมือนใคร โดยทารักสีดำที่เปลือกของต้นไม้ และแปะลวดลายกนกสีทองแบบไทยโบราณที่ดัดแปลงมาจากลวดลายกนกบนซากพระปรางค์เก่าแก่ภายในวัด
#———————————-#
6.พระราชวังจันทร์
ที่ตั้ง : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
ตั้งอยู่ติดค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นที่ตั้งศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตัวศาลเป็นศาลาทรงไทยโบราณตรีมุขสีขาว ภายในประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรขนาดเท่าองค์จริง ประทับนั่งหลั่งน้ำจากสุวรรณภิงคารเพื่อประกาศอิสรภาพแก่ปวงชนชาวไทยที่เมืองแครง
พระราชวังจันทน์แห่งนี้ สร้างขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) ครองเมืองพิษณุโลก เคยเป็นสถานที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยจนถึงกรุงศรีอยุธยา เชื่อว่ามีการต่อเติมขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถย้ายราชธานีมาอยู่ที่เมืองพิษณุโลก และเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ต่อมาพื้นที่บริเวณพระราชวังจันทน์ ได้ใช้เป็นสถานที่ตั้งโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2535 มีการขุดพบซากอิฐเก่าบริเวณนี้ ทางกรมศิลปากรจึงได้ขึ้นทะเบียนพื้นที่บริเวณนี้ เป็นโบราณสถานเพื่อให้กรมศิลปากรเข้ามาบูรณะพระราชวังจันทน์ต่อไป และจัดศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตั้งอยู่ในพื้นที่พระราชวังจันทน์
#———————————-#
7.อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ที่ตั้ง : เขตพื้นที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ชื่อดังของจังหวัดพิษณุโลก มีเนื้อที่ประมาณ 191,875 ไร่ครอบคลุมพื้นที่ใน 3 จังหวัด ได้แก่ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
อุทยานฯ แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา ทั้งยังเป็นดินแดนประวัติศาสตร์และยุทธภูมิสำคัญในช่วงที่เกิดความขัดแย้งของลัทธิและแนวคิดทางการเมืองในอดีตด้วย
ภายในอุทยานมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ เช่น มีพิพิธภัณฑ์การสู้รบ โรงเรียนการเมืองการทหาร สถานศึกษาของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในอดีต มีทั้งห้องเรียน บ้านพัก สถานพยาบาล ครัวกระจายตัวอยู่ตามผืนป่าในอุทยานฯ
ส่วนทางด้านธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา มีลานหินแตกและลานหินปุ่ม ผาชูธงซึ่งเป็นจุดชมวิว และน้ำตกที่สวยงามอีกหลายแห่ง อุทยานฯ แห่งนี้มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
แต่ในช่วงหน้าหนาว อุณหภูมิจะต่ำประมาณ 4 อาซาเซลเซียส เหมาะสำหรับการมากางเต็นท์นอนดูดาวและในช่วงหน้าฝน จะมีทุ่งดอกไม้สวยๆ บานสะพรั่งอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้ชมแบบใกล้ชิด
#———————————-#
8.อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
ที่ตั้ง : เขตพื้นที่อำเภอวังทอง อำเภอนครไทย และอำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก อำเภอเขาค้อ และอำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์
ภาพความสวยงามของท้องทุ่งกว้างใหญ่ที่ประดับด้วยพรรณไม้หลากหลายสีสันนานาชนิดและดึงดูดสายตาให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากใฝ่ฝันว่าต้องเดินทางมาเยือนสักครั้ง นี่คือ ทุ่งแสลงหลวง หรือรู้จักกันดีในชื่อ “ทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งเมืองไทย”
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีเนื้อที่ประมาณ 789,000 ไร่ และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีพื้นที่ครอบคลุมหลายอำเภอในจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดเพชรบูรณ์
และจากความสมบูรณ์ทางธรรมชาตินี่เอง จึงเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น น้ำตกแก่งซอง น้ำตกแก่งโสภา น้ำตกปอย ฯลฯ เหมาะสำหรับแก่การเดินทางมาพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่มีอากาศหนาวเย็น และในช่วงฤดูฝนในเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนตุลาคมจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของป่าที่เขียวชอุ่มและสดชื่น
#———————————-#
9.ล่องแก่งลำน้ำเข็ก
ที่ตั้ง : อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก
ลำน้ำเข็ก เป็นลำน้ำขนาดกลาง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ด้านอำเภอเขาค้อ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงบริเวณหน่วยหนองแม่นา จังหวัดพิษณุโลก เส้นทางลัดเลี้ยวของลำน้ำเข็กก่อให้เกิดน้ำตกมากมาย ทั้งน้ำตกศรีดิษฐ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ น้ำตกแก่งโสภาอันเลื่องชื่อของจังหวัดพิษณุโลก น้ำตกปอย น้ำตกแก่งซองและน้ำตกวังนกแอ่น อีกทั้งยังยังมีเกาะแก่งมากมายในลำน้ำสายนี้
ในช่วงฤดูฝน ลำน้ำที่ใสสงบจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มที่มีความเชี่ยวกรากรุนแรง เหมาะที่สุดแก่การล่องแก่ง
เสน่ห์ของแก่งลำน้ำเข็กคือ ธรรมชาติของแก่งต่างๆ ที่มีการไต่ระดับความยากง่ายจากระดับ 1-2 แล้วเพิ่มความรุนแรงเป็น 3-4 และ 4-5 ในช่วงท้ายของเส้นทาง ทำให้ผู้ล่องแก่งมีเวลาซักซ้อมฝีไม้ลายมือไปทีละลำดับขั้น ถือเป็นการอุ่นเครื่องไปในตัวก่อนจะถึงระดับที่ยากที่สุด
เวลาที่เหมาะสมกับการล่องแก่งในลำน้ำเข็กมากที่สุดคือ เดือนมิถุนายน ไปจนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี
#———————————-#
10.สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลกในพระราชดำริ
ที่ตั้ง : ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
เปิดปิดเวลา: ทุกวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
มาเยือนพิษณุโลกทั้งมี ต้องหาโอกาสมาแวะมาที่นี่ให้ได้ สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ เป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้นานาชนิดที่อยู่ในประเทศไทย ทั้งกล้วยไม้ และไม้ดอกที่มีกลิ่นหอม เป็นศูนย์อนุรักษ์และขยายพันธุ์พืช โดยเฉพาะไม้ประจำถิ่นและไม้หายาก
ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อการเรียนรู้ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางขุนเขาและสายหมอกที่อุดมไปด้วยพรรณไม้นานาพันธุ์ในทุกฤดูกาล เปรียบเหมือนห้องสมุดทางธรรมชาติที่บริการความรู้ทางวิชาการด้านธรรมชาติวิทยาและความเพลิดเพลินเจริญใจแก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สนใจ
สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้ามีพื้นที่ทั้งหมด 1,385 ไร่ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 750-1,250 เมตร มีโรงเรือนจัดแสดงพันธุ์กล้วยไม้ไทยกว่า 300 ชนิด สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี
#———————————–#
ท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร ชวนเที่ยวเมืองไทย พลัสความสุขยกกำลังสอง กับ 12 เมืองต้องห้ามพลาด Plus ที่รอให้ทุกคนออกไปค้นหา…
นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัดพิษณุโลก และเพชรบูรณ์ เพิ่มเติมได้ที่
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพิษณุโลก (พื้นที่รับผิดชอบ พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, พิจิตร) โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907